top of page

PM 2.5 – วิ่งอย่างไรให้ปลอดภัยในวันที่อากาศไม่สดใส



สำหรับนักวิ่ง อากาศที่สดชื่นเป็นส่วนสำคัญของการซ้อม แต่ในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยู่บ่อย ๆ การออกไปวิ่งกลางแจ้งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ฝุ่นจิ๋วเหล่านี้สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและหัวใจในระยะยาว แต่ข่าวดีคือ คุณไม่จำเป็นต้องหยุดวิ่ง หากรู้จักปรับตัวและป้องกันตัวเองอย่างเหมาะสม



ทำไมการวิ่งในวันที่ค่าฝุ่นสูงถึงเสี่ยง?

เมื่อค่าฝุ่น PM 2.5 สูง นักวิ่งได้รับผลกระทบมากกว่าคนทั่วไป เพราะขณะออกกำลังกาย ร่างกายจะหายใจเร็วและลึกขึ้น ทำให้รับมลพิษเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น

  • ลดประสิทธิภาพปอด – หายใจลำบากขึ้น รู้สึกเหนื่อยง่าย

  • เพิ่มการอักเสบในร่างกาย – อาจทำให้ฟื้นตัวช้าหลังออกกำลังกาย

  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด – โดยเฉพาะหากได้รับฝุ่นสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน


AQI กับ PM 2.5 ต่างกันยังไง?

  • AQI (Air Quality Index): ค่าดัชนีคุณภาพอากาศที่บอกระดับมลพิษในอากาศ คำนวณจากหลายปัจจัย รวมถึง PM 2.5 ยิ่งค่าสูง อากาศยิ่งแย่

  • PM 2.5: ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด ส่งผลต่อสุขภาพทางเดินหายใจและหัวใจ

สรุปง่าย ๆ ถ้า PM 2.5 สูง ค่า AQI ก็มักจะสูงตามไปด้วย


ค่าอากาศแบบไหนที่เริ่มอันตรายต่อการวิ่ง?

  • AQI 0-100 (ดี - ปานกลาง): วิ่งได้ตามปกติ

  • AQI 101-150 (เริ่มมีผลต่อบางกลุ่ม): คนที่เป็นโรคทางเดินหายใจควรระวัง

  • AQI 151+ (อันตรายขึ้นไป): ควรหลีกเลี่ยงการวิ่งกลางแจ้ง


ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ควรระวัง:

  • มากกว่า 35 µg/m³: คนที่แพ้ง่ายควรลดระยะเวลาวิ่ง

  • มากกว่า 55 µg/m³: ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายกลางแจ้ง

  • มากกว่า 150 µg/m³: อันตราย ควรอยู่ในที่ร่ม


7 เคล็ดลับวิ่งให้ปลอดภัย แม้อากาศจะไม่เป็นใจ


1. เช็กคุณภาพอากาศก่อนออกวิ่ง

ก่อนออกไปวิ่ง ควรดูค่า AQI (ดัชนีคุณภาพอากาศ) จากแอปพลิเคชัน เช่น AirVisual หรือ Bangkok AQI Indexถ้าค่าฝุ่นสูงมาก ควรเปลี่ยนไปวิ่งในร่มเพื่อลดความเสี่ยง

2. เลือกเวลาวิ่งที่อากาศดีกว่า

ช่วง เช้าตรู่ หรือ หลังฝนตก มักมีอากาศที่สะอาดกว่าช่วงกลางวันหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะควันจากรถยนต์ทำให้ฝุ่นเยอะขึ้น

3. วิ่งในเส้นทางที่อากาศสะอาดกว่า

สวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวมักมีอากาศบริสุทธิ์กว่าถนนใหญ่หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีรถเยอะ เพื่อลดการสัมผัสมลพิษจากไอเสีย

4. ถ้าต้องออกไปข้างนอก ควรใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น

ถ้าจำเป็นต้องวิ่งกลางแจ้งในวันที่ฝุ่นเยอะ ลองใส่หน้ากาก N95 หรือ KN95อาจรู้สึกอึดอัดบ้าง แต่ช่วยลดการรับฝุ่นเข้าสู่ร่างกายโดยตรง

5. กินอาหารที่ช่วยต้านมลพิษ

ฝุ่น PM 2.5 ทำให้ร่างกายเกิด อนุมูลอิสระสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพปอดและหัวใจอาหารที่ช่วยต้านมลพิษ เช่น บลูสไปรูลิน่า และ โปรตีนพืช (Pea Protein Powder) สามารถช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบหายใจให้แข็งแรงขึ้น

6. ดื่มน้ำเยอะ ๆ และช่วยร่างกายขจัดสารพิษ

การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ร่างกายขับฝุ่นออกจากระบบได้ดีขึ้นลองดื่ม ชาขิงหรือขมิ้น ซึ่งมีสารต้านการอักเสบและช่วยบำรุงปอด

7. เปลี่ยนมาออกกำลังกายในร่มเมื่อจำเป็น

หากอากาศแย่มาก ควรเปลี่ยนไปออกกำลังกายในร่ม เช่น

  • ใช้ลู่วิ่งหรือจักรยานในร่ม

  • เล่นเวทเทรนนิ่งหรือพิลาทิส

  • ว่ายน้ำ เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวโดยไม่ต้องเจอฝุ่น



การวิ่งเป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพ แต่เมื่อมลพิษทางอากาศเป็นปัญหา การรู้จักป้องกันตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็กค่าฝุ่นก่อนออกไปวิ่ง เลือกเส้นทางที่เหมาะสม และดูแลสุขภาพให้ดี

อย่าลืมเสริมร่างกายด้วย บลูสไปรูลิน่า และ โปรตีนพืช เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสุขภาพปอด เท่านี้คุณก็สามารถวิ่งได้อย่างมั่นใจ แม้ในวันที่อากาศไม่สดใส!


Comments


Recent Posts
Archive

เป็นเพื่อนกับเรา

เพื่อรับข้อเสนอพิเศษและข่าวสารอัปเดตใหม่ๆ

  • Line
  • Twitter
  • Facebook
  • Instagram
  • TikTok

ขอบคุณที่ติดตามเรา

คุณเป็นผู้ประกอบการที่มองหาสาหร่ายสีน้ำเงินหรือโปรตีนจากถั่วลันเตาเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหรือไม่? 

©2023 by Pealicious, Be FIT FIRM FLAWLESS you

bottom of page